ดูพระยังไงไม่ให้โดนหลอก! เทคนิคเบื้องต้นสำหรับมือใหม่สายพระเครื่อง – สวัสดีครับทุกท่านที่ชอบพระเครื่อง โดยเฉพาะมือใหม่ที่กำลังสนใจอยากจะ ดูพระ หรือเช่าหาพระเครื่องมาบูชา แต่ก็แอบหวั่นใจว่าจะโดนหลอก โดนย้อมแมวเอาพระเก๊มาให้ใช่ไหมครับ? เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เลยครับ เพราะวงการพระเครื่องนั้นกว้างใหญ่และมีอะไรให้เรียนรู้เยอะแยะไปหมด วันนี้ผมในฐานะคนรักพระเครื่องเหมือนกัน จะมาแนะนำเทคนิคเบื้องต้นง่ายๆ สไตล์บ้านๆ ให้พี่น้องชาวต่างจังหวัดหรือใครก็ตามที่กำลังเริ่มต้นดูพระได้เข้าใจกันแบบหมดเปลือก ไม่ต้องกลัวโดนโกงอีกต่อไปครับ!
ทำไมการ “ดูพระ” ให้เป็นถึงสำคัญนัก?
ก่อนอื่นเลย เราต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมเราถึงต้องเรียนรู้การดูพระให้ละเอียด การเช่าพระเครื่องสักองค์ ไม่ใช่แค่เรื่องของความศรัทธาเท่านั้นครับ แต่ยังรวมถึงเรื่องของมูลค่าและการลงทุนด้วย พระเครื่องบางองค์มีมูลค่าสูงมาก หากเราไม่มีความรู้ หรือดูพระไม่เป็น ก็อาจจะเสียเงินไปกับพระปลอม หรือพระเก๊ที่ไม่มีมูลค่าเลยก็ได้ แถมยังอาจจะเสียความรู้สึก เสียกำลังใจไปอีก เพราะฉะนั้น การรู้จักดูพระให้ขาด จึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับตัวเราเองครับ
เทคนิคเบื้องต้น “ดูพระ” ฉบับเข้าใจง่ายสำหรับมือใหม่
1. ศึกษาและเรียนรู้ก่อนเป็นอันดับแรก
หัวใจสำคัญของการดูพระให้เป็น คือการ “ศึกษา” ครับ เหมือนเราจะซื้ออะไรสักอย่าง เราก็ต้องหาข้อมูลใช่ไหมครับ? พระเครื่องก็เช่นกันครับ หากคุณสนใจพระเครื่องของหลวงปู่ หรือหลวงพ่อองค์ใด ให้เริ่มต้นด้วยการศึกษาประวัติของท่าน ศึกษาว่าท่านสร้างพระรุ่นไหนบ้าง สร้างเมื่อไหร่ จำนวนเท่าไหร่ พิมพ์ทรงเป็นอย่างไร มวลสารอะไร สิ่งเหล่านี้เป็นข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นอย่างยิ่งในการดูพระครับ ยิ่งรู้มาก ยิ่งมีชัยไปกว่าครึ่ง
- หาหนังสืออ่าน: ปัจจุบันมีหนังสือพระเครื่องดีๆ เยอะแยะมากมาย หรือแม้แต่ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตก็มีให้ศึกษา
- ดูพระแท้บ่อยๆ: หากมีโอกาส ให้ไปงานประกวดพระ หรือไปตามแผงพระที่มีชื่อเสียง ไปส่องดูพระแท้บ่อยๆ จะทำให้เราจดจำพิมพ์ทรง รายละเอียดต่างๆ ของพระแท้ได้
2. จดจำ “พิมพ์ทรง” และ “เนื้อหา”
สิ่งแรกที่ต้องจดจำเมื่อจะ ดูพระ คือ “พิมพ์ทรง” ขององค์พระครับ พระแท้ทุกรุ่นจะมีแม่พิมพ์เฉพาะตัว รายละเอียดของพิมพ์ทรง เช่น ความคมชัดของเส้นสาย ใบหน้า แขนขา เกศ (ผม) ตลอดจนรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ต้องถูกต้องตามตำราเป๊ะๆ ไม่มีผิดเพี้ยน หากพิมพ์ทรงไม่ตรง หรือดูแปลกๆ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจจะไม่ใช่ของแท้
ต่อมาคือ “เนื้อหา” หรือ “มวลสาร” ครับ พระเครื่องแต่ละชนิด แต่ละยุคสมัย จะมีส่วนผสมหรือมวลสารที่เป็นเอกลักษณ์ การดูพระจากเนื้อหาจะช่วยบอกได้ว่าพระองค์นั้นเป็นของแท้หรือไม่ เช่น พระเนื้อผง จะต้องมีความหนึกนุ่มตามธรรมชาติ มีความแห้ง ความเก่าตามอายุ ส่วนพระเนื้อโลหะ ก็ต้องดูความเก่าของเนื้อโลหะ สนิมต่างๆ ต้องเป็นสนิมธรรมชาติ ไม่ใช่สนิมที่ทำขึ้นมาใหม่
3. ใช้กล้องส่องพระให้เป็นประโยชน์
การดูพระจะขาดสิ่งนี้ไปไม่ได้เลยครับ นั่นคือ “กล้องส่องพระ” หรือที่เรียกว่า “กล้องกำลังขยาย” (Loupe) แนะนำให้ใช้กล้องที่มีกำลังขยายประมาณ 10 เท่า หรือ 20 เท่า จะช่วยให้เรามองเห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ตาเปล่ามองไม่เห็น เช่น รอยตัดขอบข้าง ตำหนิเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของพระรุ่นนั้นๆ รูพรุนของเนื้อพระ หรือแม้แต่ความเก่าของมวลสารต่างๆ การส่องดูพระด้วยกล้องจะช่วยให้คุณมั่นใจในการตัดสินใจได้มากขึ้นเยอะเลยครับ

4. ธรรมชาติของความเก่า
พระเครื่องที่มีอายุมาก ย่อมมีร่องรอยของกาลเวลาครับ การดูพระจากความเก่าตามธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญ เช่น คราบไคล ผิวปรอท สนิมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ รอยหดตัวของเนื้อพระ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ความแท้ที่สำคัญ ไม่ใช่การทำให้เก่าโดยใช้สารเคมี หรือการ “ทำผิว” ขึ้นมาใหม่ พระแท้จะมีความเก่าที่เป็นธรรมชาติ ไม่เหมือนการสร้างขึ้นมาใหม่ที่ดูแข็งกระด้าง หรือไม่เป็นธรรมชาติ
5. อย่ารีบร้อนและปรึกษาผู้รู้
สำหรับมือใหม่ การดูพระให้เป็นนั้นต้องใช้เวลาครับ อย่ารีบร้อนในการตัดสินใจซื้อพระเครื่องราคาแพง หากไม่มั่นใจจริงๆ ลองปรึกษาผู้รู้ ผู้มีประสบการณ์ หรือเซียนพระที่เชื่อถือได้ เพื่อขอคำแนะนำ หรือให้ท่านช่วยดูพระให้ก่อน ยิ่งได้ความเห็นจากหลายๆ ท่าน ยิ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้เราได้ครับ แต่ก็ต้องเลือกปรึกษาคนที่ไว้ใจได้จริงๆ นะครับ

6. เริ่มต้นจาก “พระหลักร้อย”
ถ้าเพิ่งเริ่มต้นดูพระแนะนำให้เริ่มต้นจากพระเครื่องที่มีราคาไม่สูงมากนัก หรือที่เรียกว่า “พระหลักร้อย” ก่อนครับ เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนสายตา ฝึกการดูพระในรูปแบบต่างๆ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดทุนมากนัก หากมีความผิดพลาดเกิดขึ้น เมื่อประสบการณ์มากขึ้น มีความชำนาญมากขึ้น ค่อยขยับไปเช่าพระที่มีมูลค่าสูงขึ้นครับ
ระวังกลโกงยอดฮิตที่มักเจอ!
นอกจากการดูพระให้เป็นแล้ว การรู้เท่าทันกลโกงก็สำคัญไม่แพ้กันครับ นี่คือบางส่วนที่มักจะเจอกันบ่อยๆ:
- เสนอพระชุด หรือพระเหมา: บางครั้งจะเจอการเสนอขายพระเป็นชุดใหญ่ๆ ในราคาที่ถูกกว่าปกติมาก หรือบอกว่าได้มาจำนวนมาก ต้องการปล่อยด่วน ตรงนี้ต้องระวังให้มากครับ เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นพระเก๊ หรือพระที่ไม่มีมูลค่าผสมมาในชุด
- เร่งรัดให้ตัดสินใจ: หากเจอคนขายที่พูดจาหว่านล้อม เร่งรัดให้เราตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว โดยไม่ให้เรามีเวลาคิด หรือ ดูพระให้ละเอียด ให้สงสัยไว้ก่อนเลยครับ
- อ้างใบรับรองที่ออกเอง: บางคนอาจจะมีการนำใบรับรองพระแท้มาแสดง แต่ใบรับรองนั้นเป็นใบที่ทำปลอมขึ้นมาเอง หรือออกโดยหน่วยงานที่ไม่เป็นที่ยอมรับ ต้องตรวจสอบให้ดีครับ
- อ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เกินจริง: พระเครื่องมีพุทธคุณแน่นอนครับ แต่การอ้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ที่เกินจริง จนดูเหมือนจะชวนเชื่อมากไป ให้ระวังไว้ก่อนว่าอาจจะเป็นกลโกงเพื่อหลอกให้เราซื้อ
สรุป: การ “ดูพระ” คือการเรียนรู้ตลอดชีวิต
การ ดูพระ ให้เป็นนั้น ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวครับ เป็นเรื่องของการเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ไปตลอดชีวิต ยิ่งเราฝึกฝนบ่อยๆ ศึกษามากเท่าไหร่ สายตาของเราก็จะยิ่งคมขึ้นเท่านั้น ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการดูพระและเช่าหาพระเครื่องที่ถูกใจนะครับ ขอให้ได้พระแท้ พระดี มาบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลกันถ้วนหน้าครับ
หากบทความนี้เป็นประโยชน์ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทย หรือในโลกใบนี้ ก็ขอให้ช่วยกัน แชร์บทความนี้ ให้เพื่อนๆ พี่น้อง หรือคนรู้จักได้อ่านกันเยอะๆ นะครับ ความรู้เรื่องการดูพระที่ถูกต้อง จะช่วยให้ทุกคนรอดพ้นจากการโดนหลอกลวงได้ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน มีแต่ความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรงนะครับ!