Buacha Logo

Buacha.com

อัพเดททุกเรื่องราวสายบุญ สายมู บทความเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และความเชื่อในประเทศไทยแบบครบวงจร

วันพระนี้ไม่พลาด! รวมสิ่งที่ควรทำและข้อห้ามสำหรับพุทธศาสนิกชน

วันพระนี้ไม่พลาด! รวมสิ่งที่ควรทำและข้อห้ามสำหรับพุทธศาสนิกชน

เคยสังเกตไหมว่าในปฏิทินของเรามี “วันพระ” ปรากฏอยู่บ่อยครั้ง? วันพระไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องหมายบนปฏิทิน แต่เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่มีความหมายลึกซึ้ง และเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้หันกลับมาทบทวนและบำเพ็ญบุญ เพื่อเสริมสร้างความสงบสุขให้กับจิตใจ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับวันพระให้มากขึ้น รวมถึงสิ่งที่ควรทำและข้อห้ามต่างๆ ที่ชาวพุทธอย่างเราไม่ควรมองข้าม

วันพระคืออะไร และสำคัญกับพุทธศาสนิกชนอย่างไร?

วันพระ

วันพระ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “วันธรรมสวนะ” หรือ “วันอุโบสถ” คือวันที่ พุทธศาสนิกชน จะมารวมตัวกันเพื่อประกอบกิจกรรมทางศาสนาในพระพุทธศาสนา ซึ่งกำหนดตามปฏิทินจันทรคติ เดือนละ 4 วัน ได้แก่ วันขึ้น 8 ค่ำ, วันขึ้น 15 ค่ำ (วันเพ็ญ), วันแรม 8 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ (หากเดือนใดเป็นเดือนขาด จะนับวันแรม 14 ค่ำแทน)

ความเป็นมาของวันพระย้อนไปได้ถึงสมัยพุทธกาล เมื่อพระเจ้าพิมพิสารทรงเห็นว่านักบวชศาสนาอื่นมีวันประชุมเพื่อแสดงธรรมคำสอนของตน จึงได้กราบทูลขอพุทธานุญาตจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้พระสงฆ์ได้มีการประชุมและแสดงธรรมแก่ประชาชนบ้าง พระพุทธองค์จึงทรงอนุญาตให้มีวันดังกล่าวขึ้น ซึ่งต่อมา พุทธศาสนิกชน ได้ยึดถือเป็นวันสำคัญสำหรับฟังธรรมและปฏิบัติธรรมสืบมาจนถึงปัจจุบัน

สำหรับ พุทธศาสนิกชน วันพระจึงไม่ใช่แค่วันหยุดพักผ่อน แต่เป็นวันแห่งการทำความดี ลดละกิเลส และพัฒนาจิตใจให้สงบผ่องใส เป็นโอกาสที่เราจะได้ชำระกาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ และสะสมบุญบารมีเพื่อความสุขความเจริญในชีวิต

วันพระนี้ไม่พลาด! รวมสิ่งที่ควรทำสำหรับพุทธศาสนิกชน

เพื่อให้วันพระเป็นวันที่มีคุณค่าและเปี่ยมด้วยบุญกุศลอย่างแท้จริง นี่คือกิจกรรมดีๆ ที่เราในฐานะ พุทธศาสนิกชน ควรปฏิบัติกันครับ:

1. ทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ (ให้ทาน)

เริ่มต้นวันด้วยการทำบุญตักบาตร ถวายอาหารคาวหวานและสิ่งของที่จำเป็นแด่พระสงฆ์ที่วัด หรือนิมนต์พระมาบิณฑบาตที่บ้าน การทำบุญตักบาตรถือเป็นการให้ทานที่สำคัญยิ่ง เป็นการบำรุงพระพุทธศาสนาและสร้างบุญกุศลให้แก่ตนเอง

พุทธศาสนิกชน

2. รักษาศีลให้บริสุทธิ์

สิ่งสำคัญในวันพระคือการรักษาศีลอย่างเคร่งครัด สำหรับฆราวาสทั่วไปควรรักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ แต่หากมีโอกาสและตั้งใจจริง อาจสมาทานศีล 8 (อุโบสถศีล) เพื่อฝึกฝนตนเองให้ละเว้นจากกิเลสทางโลกมากขึ้น ซึ่งจะช่วยขัดเกลาจิตใจให้สงบและบริสุทธิ์

3. เข้าวัดฟังพระธรรมเทศนา

การไปวัดในวันพระเป็นกิจกรรมที่ชาวพุทธนิยมทำกัน เพื่อฟังพระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา การฟังธรรมจะช่วยให้เราเข้าใจหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อการดำเนินชีวิตอย่างมีสติและปัญญา

4. เจริญภาวนา สวดมนต์ นั่งสมาธิ

การเจริญภาวนาเป็นการฝึกฝนจิตใจให้สงบ ตั้งมั่น การสวดมนต์เป็นการระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และการนั่งสมาธิช่วยให้จิตใจผ่อนคลาย ลดความเครียด รู้จักปล่อยวาง และเพิ่มสติปัญญา การปฏิบัติเช่นนี้สามารถทำได้ทั้งที่วัดหรือที่บ้าน

5. แผ่เมตตา

หลังจากทำบุญหรือปฏิบัติธรรมแล้ว อย่าลืมแผ่เมตตาให้กับตนเองและสรรพสัตว์ทั้งหลาย การแผ่เมตตาเป็นการฝึกจิตให้มีความปรารถนาดีต่อผู้อื่น ช่วยให้จิตใจอ่อนโยน เปี่ยมด้วยความรักและเมตตา

6. ทำความดีอื่น ๆ และละเว้นความชั่ว

นอกเหนือจากกิจกรรมข้างต้น การทำความดีเล็กๆ น้อยๆ เช่น การช่วยเหลือผู้อื่น การดูแลพ่อแม่ หรือการทำความสะอาดบ้านเรือน ก็ถือเป็นการสร้างบุญกุศลได้เช่นกัน ที่สำคัญคือการละเว้นจากการกระทำบาปทั้งปวง ไม่ว่าจะทางกาย วาจา หรือใจ

บริจาค

ข้อห้ามที่ไม่ควรทำในวันพระ (ตามความเชื่อและหลักปฏิบัติ)

ในวันพระ นอกจากการทำความดีแล้ว การงดเว้นบางสิ่งบางอย่างก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้จิตใจของเรามุ่งสู่ความบริสุทธิ์อย่างเต็มที่:

1. ละเว้นการทำบาปและผิดศีล

หัวใจสำคัญที่สุดคือการงดเว้นจากการทำบาปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดโกหก หรือดื่มสุราเมรัย ซึ่งเป็นการละเมิดศีล 5 อย่างที่พุทธศาสนิกชนพึงรักษา การทำบาปในวันพระเชื่อกันว่ามีโทษยิ่งกว่าวันอื่นๆ

2. หลีกเลี่ยงกิจกรรมทางโลกีย์

คนโบราณเชื่อว่าวันพระเป็นวันบริสุทธิ์ที่ควรละเว้นจากกิจกรรมทางโลกีย์ โดยเฉพาะการมีเพศสัมพันธ์ เพราะถือเป็นการไม่สำรวม และเป็นการนำพาจิตใจให้ห่างจากการปฏิบัติธรรม แม้จะไม่มีหลักอ้างอิงชัดเจนในพระไตรปิฎก แต่ก็เป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาเพื่อส่งเสริมให้เราได้ฝึกฝนจิตใจให้สงบและบริสุทธิ์

3. งดเว้นการเดินทางที่ไม่จำเป็น

ในบางความเชื่อ คนโบราณยังแนะนำให้งดการเดินทางไกลในวันพระ เพื่อมุ่งเน้นการเข้าวัด ทำบุญ และปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่ แทนที่จะออกไปทำธุระทางโลก

ทำไมวันพระถึงสำคัญกับชีวิตของพุทธศาสนิกชน?

การให้ความสำคัญกับวันพระและปฏิบัติตนตามหลักธรรมคำสอน ไม่ได้เป็นเพียงการทำตามประเพณีเท่านั้น แต่ยังส่งผลดีต่อชีวิตของเราในหลายๆ ด้าน:

  • เสริมสร้างบุญบารมี: การทำบุญ รักษาศีล และเจริญภาวนาในวันพระเป็นการสะสมบุญอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชีวิตมีความสุขความเจริญ
  • จิตใจสงบผ่องใส: การได้หยุดพักจากความวุ่นวายทางโลก มามุ่งเน้นการปฏิบัติธรรม ช่วยให้จิตใจสงบ มีสติ และผ่องใสขึ้น
  • เพิ่มพูนปัญญา: การฟังธรรมและการพิจารณาธรรมช่วยให้เราเข้าใจชีวิตและโลกตามความเป็นจริง นำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างมีปัญญา
  • สร้างสิริมงคลให้ชีวิต: การประพฤติดีปฏิบัติชอบในวันพระ เชื่อกันว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล ความเจริญรุ่งเรือง และความสุขในชีวิต
  • ดำรงพระพุทธศาสนา: การที่ พุทธศาสนิกชน ร่วมกันรักษาและปฏิบัติตามหลักธรรมในวันพระ เป็นการช่วยจรรโลงพระพุทธศาสนาให้ดำรงอยู่สืบไป

วันพระจึงเป็นมากกว่าวันหนึ่งในปฏิทิน เป็นวันแห่งโอกาสทองที่ พุทธศาสนิกชน ทุกคนจะได้หันมาดูแลจิตใจ ทบทวนตนเอง และสร้างบุญสร้างกุศล เพื่อชีวิตที่มีคุณค่าและเปี่ยมด้วยความสุข การทำความดีและละเว้นความชั่วในวันพระเป็นเสมือนการเติมพลังให้กับชีวิต ให้เราพร้อมรับมือกับสิ่งต่างๆ ด้วยสติและปัญญา

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ หันมาให้ความสำคัญกับวันพระกันมากขึ้นนะครับ ถ้าเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ หรือคนใกล้ตัวได้อ่านกันด้วยนะครับ ขอให้บุญกุศลที่ท่านได้ร่วมแบ่งปัน จงส่งผลให้ทุกท่านประสบความสำเร็จในทุกสิ่งอันพึงปรารถนา มีความสุขความเจริญตลอดไปครับ!

แชร์บทความ
0 0 โหวต
ให้คะแนนบทความ
guest
0 ความเห็น
เก่าสุด
ใหม่สุด ถูกใจมากที่สุด
Inline Feedbacks
View all comments
0
แสดงความเห็นกับบทความนี้ได้นะx